
“มาซาทาดะ อิชิอิ” นำทัพ “ทีมชาติไทย” ประเดิมซ้อมมื้อแรก ลุยศึกฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์ คัพ ครั้งที่ 51
เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2568 เวลา 17.00 น. ณ สนามกีฬาองค์การบริหารส่วนตำบลเขาน้อย จังหวัดกาญจนบุรี ฟุตบอลชายทีมชาติไทย ลงฝึกซ้อมครั้งแรก เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์ คัพ ครั้งที่ 51 ระหว่างวันที่ 1-9 กันยายน 2568 ณ สนามกีฬากลางจังหวัดกาญจนบุรี (กลีบบัว)
โดยการฝึกซ้อมครั้งนี้ “มาซาทาดะ อิชิอิ” หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย นำทัพนักเตะทั้ง 22 คนลงติวเข้ม ซึ่งจะขาดเพียง ปรเมศย์ อาจวิไล นักเตะจากสโมสร จูบิโล อิวาตะ ในลีกญี่ปุ่น ที่จะเดินทางมาสมทบกับทีมในวันที่ 2 กันยายนนี้ โดยเน้นไปที่การฟื้นฟูร่างกายและสร้างความสัมพันธ์ภายในทีม ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที
ก่อนการฝึกซ้อม “มาซาทาดะ อิชิอิ” หัวหน้าผู้ฝึกสอน กล่าวว่า…”ผมยังอธิบายบรรยากาศที่กาญจนบุรีได้ไม่มาก แต่ด้วยบรรยากาศ ถือว่าเป็นต่างจังหวัด และแตกต่างจากในกรุงเทพฯ ทำให้นักฟุตบอลมีสมาธิในการซ้อมเป็นอย่างดี ทุกครั้งผมจะพยายามเลือกนักเตะที่ผมพูดเสมอว่าเป็นคนที่พร้อมจะมารับใช้ชาติ ในทัวร์นาเมนต์ต่างๆ และผมมั่นใจว่าทีมชุดนี้จะทำผลงานได้ดี จะพยายามเลือกคนที่ดีที่สุด ณ ปัจจุบัน”

“ทีมชาติฟิจิพยายามต่อบอลและเล่นเกมรับค่อนข้างคอมแพคต์ ไม่ว่าเราจะเจอกับใคร ทุกทีมต่างมีสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงเสมอ เราจะพยายามเน้นเรื่องการเพรสซิ่ง ซึ่งคิดว่าเราทำได้ดี ด้วยเราเตะเวลา 2 ทุ่ม คิดว่าเรื่องความร้อนไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ส่วนฝนถ้าไม่ตกน่าจะเป็นเรื่องที่ดี ไม่ใช่แค่กับทีมเราแต่รวมถึงทีมอีกฝ่ายด้วย ในส่วนของเสื้อคนไทยรักบอลไทย คุณคิดว่าผมใส่แล้วหล่อไหมล่ะ? ผมคิดว่ามันเรียบง่าย และดูเท่ดี โดยเฉพาะลายธงชาติ มันทำให้เท่ดี อยากให้ทุกคนใส่เหมือนกับผม”
ด้าน “เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์” ตัวรุกทีมชาติไทย เผยว่า…”ก่อนอื่นต้องแสดงความยินดีกับ จังหวัดกาญจนบุรี ที่ได้เป็นเจ้าภาพ คิงส์ คัพ ปีนี้ผมรู้สึกดีใจเพราะนี่คือบ้านเกิดของผมด้วย ดีใจที่มีชื่อในครั้งนี้ จะพยายามทำผลงานให้ดีที่สุด ในการเล่นต่อหน้าแฟนบอลกาญจน์”

“แน่นอนเราเป็นแชมป์เก่า แต่เกมทั้งสองเกมที่ต้องเล่นต่างมีความยาก เราจะพยายามทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เพื่อแฟนบอลและประเทศชาติ สภาพร่างกายตอนนี้สมบูรณ์เต็มร้อยไม่มีอาการอะไร ที่ผ่านมาได้ลงสนามต่อเนื่อง สภาพร่างกายไม่น่าห่วง ส่วนแทคติกของโค้ชอิชิอิ เรารู้อยู่แล้วว่ากระชั้นชิด จะต้องเรียนรู้ให้เร็ว และพยายามปรับตัวกับเกมที่เราจะเจอ”
“จริงๆยังไม่ได้ทราบข้อมูลของฟิจิ ซึ่งจะมีการประชุมในช่วงหลังจากนี้ และมาดูแนวทางการเล่น เกมทีมชาติเราประมาทไม่ได้อยู่แล้วต้องทำเต็มที่ เล่นให้รัดกุมที่สุดเพื่อผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ ฝากแฟนบอลชาวกาญจน์ และแฟนบอลชาวไทยเป็นกำลังให้ให้เรา ในวันที่ 4 กันยายน และเราจะพยายามเข้าชิงในวันที่ 7 ให้ได้เพื่อแฟนบอลของประเทศไทย”
เครดิตภาพ : FA Thailand